มีคนกล่าวกันว่า ของที่มีพิษแต่สามารถทำประโยชน์ได้ และกลับกัน ของที่มีประโยชน์ก็สามารถให้โทษได้เช่นเดียวกัน อย่างผลทุเรียนเทศ หรือที่รู้จักกันในบ้านเราว่า ทุเรียนน้ำ หรือทุเรียนแขก โดยหลักทางวิชาการในประเทศอังกฤษนั้น ถือว่าสารสกัดจากเมล็ดทุเรียนเทศนี้ มีพิษทำให้เกิดโรคได้

ทุเรียนเทศเป็นสมุนไพรที่ออกฤทธิ์ในยาที่ขายในตลาดในชื่อ Triamazon. โดยยาตัวนี้ไม่ได้รับอนุญาตให้ใช้เป็นยาในอังกฤษ แต่มีการวิจัยออกมาว่าในประเทศที่มีการใช้เมล็ดเป็นยาพื้นเมืองฆ่าพยาธิได้ แต่ไม่แนะนำสำหรับคนที่เป็นพาร์คินสัน และควรเลี่ยงการกินเมล็ด ในผลทุเรียนเทศสด 1 ผล มีสาร annonacin 15 milligrams และ 1 กระป๋องของน้ำผลไม้ที่ทำสำเร็จแล้วเพื่อการค้ามี annonacin 36 milligrams annonacin มีความเกี่ยวข้องกับการเกิดแผลในสมองทำให้มีอาการแบบพาร์คินสัน จึงควรหลีกเลี่ยงการกินผลมากเกินไป

กินมากไปก็เกิดโทษ แต่กินพอดีๆ รักษาโรคได้ โดยเฉพาะมะเร็งกับทุเรียนเทศนี้ เค้าว่าชงัดนัก

ต้านมะเร็งด้วย ทุเรียนเทศ

Anti Cancer Soursop ป้องกันและรักษามะเร็งจากทุเรียนเทศ ทำอย่างไร? ง่ายๆ คือ ถ้าคิดจะใช้ฆ่าเชื้อแบคทีเรียในร่างกาย ก็นำใบชาที่ทำให้แห้งโดยการใช้วิธีการ Air Dry จะช่วยทำให้ประโยชน์ในการรักษานั้นเข้มข้นขึ้น เมื่อใบแห้งแล้ว ฉีกใบเป็นชิ้นเล็กๆ และตวงให้ได้ 1 ถ้วยตวงต่อน้ำ 1 ลิตร นำไปต้ม และลดไฟให้ต่ำ เคี่ยวอีก 20 นาที ใช้ดื่ม 3 ถ้วยต่อวัน 30 นาทีก่อนมื้ออาหาร ดื่มน้ำชาแบบนี้ทุกวันเป็นระยะเวลา 30 วัน เพื่อฆ่าเชื้อแบคทีเรียในร่างกาย

ผลการรับรองจากแล็บมากมายว่าผลไม้ชนิดนี้สามารถช่วยในการฆ่าเซลส์มะเร็งกว่า 12 ชนิดซึ่งรวมถึง มะเร็งลำไส้ มะเร็งเต้านม มะเร็งต่อมลูกมาก มะเร็งปอด และมะเร็งตับอ่อน ผลจากการรับประทานยาที่สกัดจากทุเรียนเทศ หรือการนำใบมาต้มเป็นชาแล้วรับประทาน จะช่วยในการฆ่าเซลส์มะเร็ง ซึ่งมีประสิทธิภาพมากกว่าการทำคีโมถึง 10,000 เท่า แต่จะไม่ทำร้ายเซลส์ดีในร่างกาย ผลการวิจัยแสดงให้เห็นว่าผลไม้มหัศจรรย์นี้จะช่วยสู้เซลส์มะเร็งอย่างมีประสิทธิภาพ โดยไม่ก่อให้เกิดการคลื่นเหียนวิงเวียน หรือเกิดอาการผมร่วงเหมือนกับการทำคีโม

จริงไม่จริงยังไม่มีหลักฐานพิสูจน์แน่ชัด

ได้ผลดีที่สุดเมื่อได้มาจากธรรมชาติ เช่นกินผลสดจากต้น หรือใบที่ได้ในลักษณะธรรมชาติ ไม่มีการผ่านกระบวนการ ทำเป็น อัดเม็ด แคพซุล หรือ กินชาแบบทำเป็นซองชาผ่านกระดาษกรองพร้อมดื่ม การรับประทานให้ได้ผล ผลไม้นี้มีพลังมากกว่าคีโม ไม่ควรกินเป็นผลไม้หรืออาหารว่างที่นึกจะกินก็กิน กินไม้ยั้ง แต่มันต้องมีโดส มีปริมาณที่เหมาะสมที่ควรกินเพื่อรักษาโรคจริงๆ